นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก (GBS) ประเมินแนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำในสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนปรับลด ความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงความลังเลต่อการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ หลังทำเนียบขาวระบุว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ส่งผลให้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานประจำเดือนตุลาคม ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด
“เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้แสดงความลังเลที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานค่อนข้างมีเสถียรภาพหลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งท่าทีดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธันวาคมนี้”
นอกจากนี้ การยุติสถานการณ์ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะทำให้สหรัฐฯ เผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะเพิ่มสูงยิ่งขึ้น และอาจเผชิญภาวะชัตดาวน์ครั้งใหม่ในเวลาอีกสองเดือนข้างหน้า เนื่องจากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่ยังคงรุนแรง ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของการชัตดาวน์ในอนาคต ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกถือครอง ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 4,000-4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสนี้ในการเก็งกำไรภายในกรอบดังกล่าว เพื่อสร้างผลตอบแทนจากความผันผวนที่เกิดขึ้น
****************************



